วันนี้ผมนำการจับไม้เทนนิสในแบบต่างๆที่ถูกวิธีมาให้ลองศึกษากันดูนะครับ (◕‘_’◕)
การจับไม้เทนนิสที่ถูกหลัก จะทำให้การตีลูกมีประสิทธิภาพและแม่นยำ การจับไม้เพื่อตีลูกในลักษณะต่างๆ จะใช้ฐานนิ้วชี้ของมือข้างที่กำไม้ สัมผัสกับด้านต่างๆ ทั้งแปดของด้ามไม้เทนนิส เป็นตัวอ้างอิง ซึ่งด้านทั้งแปดหรือที่เรียกว่า กริพ(GRIP) ได้แก่ ส่วนบน(Top), ส่วนล่าง(Bottom), ด้านขวา(Right side), ดัานซ้าย(Left side), Bevel 1(ด้านเอียงที่ 1), Bevel 2, Bevel 3 และ Bevel 4
"กริพที่คุณจับ จะขึ้นอยู่กับว่า คุณจะตีลูกแบบไหน"
โดยพื้นฐานแล้ว จะแบ่งกริพเพื่อใช้ตีลูกในลักษณะต่างๆ ดังต่อไปนี้
1. CONTINENTAL GRIP คือ กริพเดียวที่สามารถใช้ได้กับการตีทั้งหมด แต่ก็ไม่ใช่กริพที่นิยมฝึกกันในหมู่ผู้เล่นรุ่นใหม่ๆ เพราะหากเล่นแบบพลิกแพลงเทคนิคจะทำได้ไม่ดีเท่าใดนัก อย่างไรก็ตาม Continental grip ยังคงเป็นพื้นฐานของการใช้เสิร์ฟ, การวอลเล่ย์, การ Smash หรือตีลูกเหนือศีรษะ, การตีลูกสไลด์ และการตีลูกเพื่อการป้องกัน
การจับ: จับด้ามไม้โดยให้ตำแหน่งของฐานนิ้วชี้อยู่บนด้านเอียงที่ 1 (bevel 1) หรือ Bevel 4 สำหรับคนตีมือซ้าย
ข้อดี: ลูกที่ตีออกเป็นแบบ flat ที่พุ่งตรงและแรง การช่วยในเกมส์รับได้ดี โดยเฉพาะจังหวะที่ต้องการความรวดเร็ว เป็นกริพมาตรฐานที่ใช้ในการเสิร์ฟและการวอลเล่ย์ของนักเทนนิส
ข้อเสีย: เป็นเรื่องยากที่จะใช้ตีลูกแบบ topspin นั่นหมายถึง การตีลูกที่ต่ำกว่าระดับเน็ตจะทำได้ไม่ดีเท่าไรนัก
การจับ: จับด้ามไม้โดยให้ตำแหน่งของฐานนิ้วชี้อยู่บนด้านเอียงที่ 1 (bevel 1) หรือ Bevel 4 สำหรับคนตีมือซ้าย
ข้อดี: ลูกที่ตีออกเป็นแบบ flat ที่พุ่งตรงและแรง การช่วยในเกมส์รับได้ดี โดยเฉพาะจังหวะที่ต้องการความรวดเร็ว เป็นกริพมาตรฐานที่ใช้ในการเสิร์ฟและการวอลเล่ย์ของนักเทนนิส
ข้อเสีย: เป็นเรื่องยากที่จะใช้ตีลูกแบบ topspin นั่นหมายถึง การตีลูกที่ต่ำกว่าระดับเน็ตจะทำได้ไม่ดีเท่าไรนัก
2. EASTERN FOREHAND GRIP
การจับ: จับด้ามไม้โดยให้ตำแหน่งของฐานนิ้วชี้อยู่บนด้านขวาของด้าม(right side) หรือ Left side สำหรับคนตีมือซ้าย วิธีง่ายๆ ที่ใช้หา Eastern Forehand Grip คือ ให้ทาบฝ่ามือข้างที่ใช้ตีลงบนหน้าไม้เทนนิส(บนหน้าเอ็น) แล้วรูดฝ่ามือลงมาหาด้ามไม้ที่จับ จะพบว่าฐานของนิ้วชี้จะตรงกับตำแหน่งของ Eastern forehand grip
ข้อดี: อาจจะเรียกได้ว่าเป็นกริพที่ง่ายที่สุดสำหรับการตีลูกโฟแฮนด์ การตีลูกได้ทั้งแบบ topspin หรือแบบ flat การเปลี่ยนจาก Eastern forehand grip ไปเป็นกริพอื่นๆ ทำได้สะดวกรวดเร็ว ทำให้เป็นทางเลือกที่ฉลาดของผู้เล่นที่นิยมขึ้นตีหน้าเน็ต
ข้อเสีย: จุดตีจะกว้างออกไปมากกว่า Continental grip การตีลูกสูงทำได้ไม่ดีเท่าไรนัก และลูกที่ตีมีแนวโน้มทีจะเป็น flat มากกว่า ลูกจะติด topspin ได้ไม่เต็มที่
การจับ: จับด้ามไม้โดยให้ตำแหน่งของฐานนิ้วชี้อยู่บนด้านขวาของด้าม(right side) หรือ Left side สำหรับคนตีมือซ้าย วิธีง่ายๆ ที่ใช้หา Eastern Forehand Grip คือ ให้ทาบฝ่ามือข้างที่ใช้ตีลงบนหน้าไม้เทนนิส(บนหน้าเอ็น) แล้วรูดฝ่ามือลงมาหาด้ามไม้ที่จับ จะพบว่าฐานของนิ้วชี้จะตรงกับตำแหน่งของ Eastern forehand grip
ข้อดี: อาจจะเรียกได้ว่าเป็นกริพที่ง่ายที่สุดสำหรับการตีลูกโฟแฮนด์ การตีลูกได้ทั้งแบบ topspin หรือแบบ flat การเปลี่ยนจาก Eastern forehand grip ไปเป็นกริพอื่นๆ ทำได้สะดวกรวดเร็ว ทำให้เป็นทางเลือกที่ฉลาดของผู้เล่นที่นิยมขึ้นตีหน้าเน็ต
ข้อเสีย: จุดตีจะกว้างออกไปมากกว่า Continental grip การตีลูกสูงทำได้ไม่ดีเท่าไรนัก และลูกที่ตีมีแนวโน้มทีจะเป็น flat มากกว่า ลูกจะติด topspin ได้ไม่เต็มที่
3. SEMI-WESTERN FOREHAND GRIP
การจับ: จาก Eastern forehand grip ให้หมุนข้อมือในทิศทางตามเข็มนาฬิกามาอีก 1 ช่อง(bevel) สำหรับคนตีซ้าย ให้หมุนทวนเข็มนาฬิกา
ข้อดี: การตีลูกแบบ topspin ทำได้ดีกว่ากริพที่ผ่านมา ซึ่งทำให้ลูกมีโอกาสโค้งผ่านหน้าเน็ตมากกว่า
ข้อเสีย: มักประสบกับปัญหากับการตีลูกที่ต่ำและใกล้ตัว
การจับ: จาก Eastern forehand grip ให้หมุนข้อมือในทิศทางตามเข็มนาฬิกามาอีก 1 ช่อง(bevel) สำหรับคนตีซ้าย ให้หมุนทวนเข็มนาฬิกา
ข้อดี: การตีลูกแบบ topspin ทำได้ดีกว่ากริพที่ผ่านมา ซึ่งทำให้ลูกมีโอกาสโค้งผ่านหน้าเน็ตมากกว่า
ข้อเสีย: มักประสบกับปัญหากับการตีลูกที่ต่ำและใกล้ตัว
4. WESTERN FOREHAND GRIP คือ กริพสุดท้าย(สุดโต่ง) ของการตีลูกโฟร์แฮนด์ นิยมใช้กันในหมู่ผู้เล่นบนคอร์ดดิน และเยาวชนรุ่นใหม่ๆ นักเทนนิสมืออาชีพที่ใช้ เช่น Rafael Nadal
การจับ: จาก Semi-Western forehand grip ให้หมุนข้อมือในทิศทางตามเข็มนาฬิกามาอีก 1 ช่อง(bevel) สำหรับคนตีซ้ายให้หมุนในทิศทางตรงกันข้าม
ข้อดี: แรงจากการตวัดข้อมือที่จับโดยกริพนี้ จะติด topspin ได้รุนแรงที่สุด ลูกที่กระทบพื้นจะกระดอนออกต่อค่อนข้างแรง มีโอกาสให้ฝ่ายตรงข้ามต้ิองถอยกลับไปตั้งรับหลังเส้นลึกขึ้น
ข้อเสีย: ลูกบอลจากฝั่งตรงข้ามที่ตีมากระทบพื้นแล้วกระดอนต่ำและเร็ว(โดยเฉพาะบนฮาร์ดคอร์ต) เป็นอุสรรคต่อผู้่เล่นที่จับกริพนี้เป็นอย่างมาก ด้วยเหตุผลที่ว่า ผู้เล่นต้องใช้ความรวดเร็วในการสโตรค(stroke) บวกกับกำลังข้อมือมหาศาล ในการตีบอลที่จุดกระทบและ topspin ให้ทัน
การจับ: จาก Semi-Western forehand grip ให้หมุนข้อมือในทิศทางตามเข็มนาฬิกามาอีก 1 ช่อง(bevel) สำหรับคนตีซ้ายให้หมุนในทิศทางตรงกันข้าม
ข้อดี: แรงจากการตวัดข้อมือที่จับโดยกริพนี้ จะติด topspin ได้รุนแรงที่สุด ลูกที่กระทบพื้นจะกระดอนออกต่อค่อนข้างแรง มีโอกาสให้ฝ่ายตรงข้ามต้ิองถอยกลับไปตั้งรับหลังเส้นลึกขึ้น
ข้อเสีย: ลูกบอลจากฝั่งตรงข้ามที่ตีมากระทบพื้นแล้วกระดอนต่ำและเร็ว(โดยเฉพาะบนฮาร์ดคอร์ต) เป็นอุสรรคต่อผู้่เล่นที่จับกริพนี้เป็นอย่างมาก ด้วยเหตุผลที่ว่า ผู้เล่นต้องใช้ความรวดเร็วในการสโตรค(stroke) บวกกับกำลังข้อมือมหาศาล ในการตีบอลที่จุดกระทบและ topspin ให้ทัน
5. EASTERN BACKHAND GRIP
การจับ: วางฐานของนิ้่วชี้ที่ส่วนบนสุดของกริพ(top)
ข้อดี: เป็นกริพอเนกประสงค์ของการตีลูกแบคแฮนด์ ผู้เล่นบางคนใช้ตีลูกสไลด์ หรือไม่เช่นนั้นก็สามารถพลิกไปเป็น Continental grip ได้อย่างรวดเร็ว Eastern backhand grip ยังใช้เป็นกริพสำหรับการเสิร์ฟแบบ Kick serves
ข้อเสีย: การตีลูกที่พุ่งมาสูงกว่าระดับไหล่ทำได้ไม่ค่อยดีนัก บ่อยครั้งที่ทำให้ผู้เล่นต้องตีลูกแบบสไลด์กลับไปโดยบังคับ รวมไปถึงจุดอ่อนของ Kick serves ที่ฝั่งตรงข้ามมักจะรีเทิร์นลูกกลับมาในช่วงจุดตีที่สูงกว่าระดับไหล่
การจับ: วางฐานของนิ้่วชี้ที่ส่วนบนสุดของกริพ(top)
ข้อดี: เป็นกริพอเนกประสงค์ของการตีลูกแบคแฮนด์ ผู้เล่นบางคนใช้ตีลูกสไลด์ หรือไม่เช่นนั้นก็สามารถพลิกไปเป็น Continental grip ได้อย่างรวดเร็ว Eastern backhand grip ยังใช้เป็นกริพสำหรับการเสิร์ฟแบบ Kick serves
ข้อเสีย: การตีลูกที่พุ่งมาสูงกว่าระดับไหล่ทำได้ไม่ค่อยดีนัก บ่อยครั้งที่ทำให้ผู้เล่นต้องตีลูกแบบสไลด์กลับไปโดยบังคับ รวมไปถึงจุดอ่อนของ Kick serves ที่ฝั่งตรงข้ามมักจะรีเทิร์นลูกกลับมาในช่วงจุดตีที่สูงกว่าระดับไหล่
6. EXTREME EASTERN OR SEMI-WESTERN BACKHAND GRIP
การจับ: ที่ bevel 4 สำหรับมือขวา หรือ bevel 1 สำหรับมือซ้าย
ข้อดี: จุดที่ขยายออกไป ทำให้การตีลูกที่สูงกว่าระดับไหล่ทำได้คล่องกว่ากริพแบคแฮนด์ที่ผ่านมา รวมถึงการ topspin
ข้อเสีย: คล้ายกันกับการจับ Weatern forehand grip ตรงที่ตีลูกต่ำได้ไม่ค่อยดี
การจับ: ที่ bevel 4 สำหรับมือขวา หรือ bevel 1 สำหรับมือซ้าย
ข้อดี: จุดที่ขยายออกไป ทำให้การตีลูกที่สูงกว่าระดับไหล่ทำได้คล่องกว่ากริพแบคแฮนด์ที่ผ่านมา รวมถึงการ topspin
ข้อเสีย: คล้ายกันกับการจับ Weatern forehand grip ตรงที่ตีลูกต่ำได้ไม่ค่อยดี
7. TWO-HAND BACKHAND GRIP
การจับ: วิธีจับสำหรับการตีลูกแบคแฮนด์สองมือวิธีหนึ่ง คือ ใช้มือขวาจับไม้ที่ Continental grip ช่วงด้านบน และมือซ้ายจับไม้ที่ Semi-Western forehand grip ช่วงด้านล่าง(สำหรับคนถนัดซ้ายให้จับตรงกันข้ามกัน)
ข้อดี: เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคนที่ไม่แข็งแรงพอที่จะตีแบคแฮนด์มือเดียว สามารถตีลูกพุ่งต่ำได้ดี รวมถึงการตีลูกระดับไหล่ที่ใช้ทั้งสองมือประคองช่วยกัน
ข้อเสีย: ช่วงตีสั้นกว่าการตีแบคแฮนด์มีเดียว การมีมือข้างที่สองช่วยประคองเป็นการล็อคหน้าไม้ไว้ ทำให้ไม่สามารถตีลูกวอลเลย์และลูกสไลด์ได้
การจับ: วิธีจับสำหรับการตีลูกแบคแฮนด์สองมือวิธีหนึ่ง คือ ใช้มือขวาจับไม้ที่ Continental grip ช่วงด้านบน และมือซ้ายจับไม้ที่ Semi-Western forehand grip ช่วงด้านล่าง(สำหรับคนถนัดซ้ายให้จับตรงกันข้ามกัน)
ข้อดี: เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคนที่ไม่แข็งแรงพอที่จะตีแบคแฮนด์มือเดียว สามารถตีลูกพุ่งต่ำได้ดี รวมถึงการตีลูกระดับไหล่ที่ใช้ทั้งสองมือประคองช่วยกัน
ข้อเสีย: ช่วงตีสั้นกว่าการตีแบคแฮนด์มีเดียว การมีมือข้างที่สองช่วยประคองเป็นการล็อคหน้าไม้ไว้ ทำให้ไม่สามารถตีลูกวอลเลย์และลูกสไลด์ได้
แอนดี้ ร็อดดิก |
ราฟาเอล นาดาล |
คาลอส โมย่า |
เจอร์เก้น เมลเซอร์ |
โรเจอร์ เฟดเดอเรอร์ |
การเลือกจับด้านกริพ ให้คำนึงถึงธรรมชาติในตัวคุณ(คุณเป็นผู้รู้ตัวดีที่สุด) หาด้านกริพที่ทำให้คุณรู้สึกสบายและเข้ากับตัวคุณมากที่สุดเวลาเล่น นั่นแหละคือกริพของคุณ
...จบแล้วสำหรับวิธีการจับไม้เทนนิสที่ถูกวิธีนะครับ ครั้งหน้าผมจะนำเคล็ดวิธีเกี่ยวกับการเล่นเทนนิสอะไรมาฝากอีกบ้าง ติดตามชมนะคร้าบบบบบบ
*.:。✿*゚¨゚✎・ ✿.。.:* *.:。✿*゚¨゚✎・ ✿.。.:* *.:。✿*゚¨゚✎・ ✿.。.:*