หัวข้อวิทยานิพนธ์ ปัจจัยคัดสรรที่มีผลต่อความสำเร็จในการแข่งขันกีฬา
โดย นายนภพร ทัศนัยนา
ภาควิชา พลศึกษา
บัณฑิตวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยอนุมัติให้นับวิทยานิพนธ์ฉบับนี้เป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาตามหลักสูตรปริญญาดุษฎีบัณฑิต
1.วัตถุประสงค์ของการวิจัย
เพื่อวิเคราะห์ปัจจัยคัดสรรที่มีผลต่อความสำเร็จในการแข่งขันกีฬา ปัจจัยคัดสรรที่นำมาศึกษาครั้งนี้ ประกอบด้วย อายุ ระดับความสามารถ ประสบการณ์แข่งขัน ศรัทธาที่มีต่อผู้ฝึกสอน ความสำคัญของการแข่งขัน เป้าหมายของการแข่งขัน ความพร้อมในการฝึกซ้อมความสมบูรณ์ของร่างกายและจิตใจ ผลการแข่งขันและการทดสอบที่ผ่านมา บรรยากาศในการจัดการแข่งขัน ความกลัว ความยากของความสำเร็จ ความคาดหวังในความสำเร็จ ความเชื่อมั่นในตนเองความวิตกกังวลทางกาย และความวิตกกังวลทางจิต
2.กรอบแนวคิด
การล่าระดับปัจจัยสาเหตุและเส้นทางความสัมพันธ์เชิงสาเหตุ สร้างขึ้นโดยอาศัยการวิเคราะห์และสังเคราะห์ เอกสาร ผลการวิจัย ความเห็นของผู้เชี่ยวชาญ และสร้างแบบจำลองตามกรอบแนวคิดไว้ดังนี้
3.ขอบเขตของการวิจัย
เนื่องจากความจำกัดหลายประการ การวิจัยนี้จึงกำหนดขอบเขตในการศึกษาไว้ดังนี้
1.การวิจัยนี้ทำการศึกษาในกลุ่มตัวอย่างที่เป็นนักกีฬา กรีฑา ว่ายน้ำ และจักรยาน
2.ปัจจัยที่ศึกษาครั้งนี้ประกอบด้วย อายุ ระดับความสามารถ ประสบการณ์ในการแข่งขัน ศรัทธาที่มีต่อผู้ฝึกสอน ความสามารถของการแข่งขัน เป้าหมายของการแข่งขัน เป้าหมายของการแข่งขัน ความพร้อมในการฝึกซ้อม ความสมบูรณ์ของร่างกายและจิตใจ ผลการแข่งขันทดสอบที่ผ่านมา ความกลัว บรรยากาศการจัดการแข่งขัน ความยากของความสำเร็จ ความคาดหวังในความสำเร็จ ความเชื่อมั่นในตนเองความวิตกกังวลทางกาย และความวิตกกังวลทางจิต
3.การวิจัยนี้มุ่งศึกษาด้านจิตวิทยา ข้อมูลเกี่ยวกับปัจจัยต่างๆ ประเมินจากความรู้สึกและความพึงพอใจ ของนักกีฬาแต่ละช่วงในช่วงก่อนการแข่งขัน
4.ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับจากการวิจัย
1.ผลการวิจัยจะเป็นประโยชน์สำหรับผู้ฝึกสอน ผู้จัดการทีมและนักกีฬาในการเตรียมนักกีฬาช่วงก่อนการแข่งขันให้นักกีฬามีระดับปัจจัยต่างๆ ที่เอื้ออำนวยต่อผลสำเร็จในการแข่งขันกีฬา ตามลักษณะและทิศทางของผล ที่ปัจจัยนั้นมีต่อความสำเร็จในการแข่งขันกีฬา
2.การบุกเบิกความรู้ทางด้านจิตวิทยาการกีฬา โดยเฉพาการศึกษาปัจจัยที่เป็นสาเหตุของความสำเร็จในการแข่งขันกีฬา
8.2.2.5.วิเคราะห์ผลทางตรง และทางอ้อมโดยการสร้างโปรแกรมคำนวณตามาวิธีการนำเสนอโดยเพดาเซอร์ (Pedhazur,1982)
8.3.วิธีการวิเคราะห์ข้อมูล
8.3.1.การวิเคราะห์องค์ประกอบ วิเคราะห์โดยเครื่องคอมพิวเตอร์ เมนเฟรม ของสถาบันคอมพิวเตอร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ด้วยโปรแกรม Spss
8.3.2.การวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐาน ความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรรายคู่วิเคราะห์ถดถอยพหุคูณวิเคราะห์ผลโดยใช้คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลด้วยโปรแกรม SPSSPC+
8.3.3.วิเคราะห์สอดคล้องของแบบจำลองและวิเคราะห์ผล ใช้เครื่องไมโครคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล โดยใช้โปรแกรมที่สร้างขึ้นด้วย โลตัส (LOTUS)
9.สรุปผลการวิจัยแบบจำลองตามสมมติฐานไม่สอดคล้องกับข้อมูลเชิงประจักษ์ ผู้วิจัยจึงปรับแบบจำลองใหม่ โดยผสมผสานระหว่างทฤษฏีและการปฏิบัติ ด้วยการตัดเส้นทางตามสมมติฐานที่มีประสิทธิภาพเส้นทางต่ำกว่า .05 ออก และเพิ่มเส้นทางที่มีในสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 แบบจำลองเต็มรูปแบบในแบบจำลองแบบใหม่ ต่อจากนั้นผู้วิจัยได้ปรับแบบจำลองให้ได้แบบจำลองที่ประหยัด (Parsimonious Model) ผู้วิจัยจะตัดเส้นทางที่มีสัมประสิทธิ์เส้นทางต่ำกว่า .05 ออกแบบจำลองปรับใหม่ จนได้แบบจำลองที่มีสัมประสิทธิ์เส้นทางทุกเส้นทางไม่ต่ำกว่า.05ต่อจากนั้นจึงนำไปวิเคราะห์ผลพบว่า
ปัจจัยคัดสรรที่ส่งผลต่อความสำเร็จในการแข่งขันมากที่สุด และรองลงมาตามลำดับดังนี้
1.เป้าหมายของการแข่งขันกีฬา โดยส่งผลรวมต่อความสำเร็จในการแข่งขันกีฬา.356จำแนกเป็นผลทางตรง.322และผลทางอ้อม.034
2.ความวิตกกังวลทางจิต โดยส่งผลรวมต่อความสำเร็จในการแข่งขันกีฬา-.250 โดยส่งผลทางตรงทั้งหมด
3.ผลการแข่งขันในการทดสอบที่ผ่านมา โดยส่งผมรวมต่อความสำเร็จในการแข่งขันกีฬา .181จำแนกเป็นผลทางตรง.123และผลทางอ้อม.058
4.ระดับความสามารถโดยส่งผลรวมต่อความสำเร็จในการแข่งขันกีฬา.181เป็นผลทางอ้อมทั้งหมด
5.ประสบการณ์แข่งขันโดยส่งผลรวมต่อความสำเร็จในกรแข่งขันกีฬา.169จำแกเป็นผลทางตรง.190และผลทางอ้อม-.021
6.ความคาดหวังในความสำเร็จโดยส่งผลรวมต่อความสำเร็จในการแข่งขันกีฬา.155จำแนกเป็นผลทางตรง.144และผลทางอ้อม.011
5. ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง
ประชากรในการวิจัยนี้ ประกอบด้วยนักกีฬากรีฑา ว่ายน้ำ และจักยานที่เข้าร่วมแข่งขันมหกรรมกีฬาชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทยนานาชาติ ณกรุงเทพมหานครจำนวน 1226 คนผู้วิจัยสุ่มเลือกกลุ่มตัวอย่างด้วยวิธีสุ่มเลือกแบบง่าย(sampling) ได้
กลุ่มตัวอย่าง 296 คน จำแนกเป็นนักกรีฑา 177 คน แยกเป็นชาย 103 คน หญิง 74 คน นักกีฬาว่ายน้ำ
93 คน แยกเป็นชาย 55 คน หญิง 38 คน และนักกีฬาจักรจักยาน 26 คน แยกเป็นชาย 18 คน
หญิง 8 คน
เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วยแบบวัดความวิตกกังวลในการแข่งขันกีฬา ซีเอสเอไอ – 2 (CSAI – 2) ซึ่งผู้วิจัยแปลจาก มาร์เต็น วีลเลย์ และเบอร์ตัน (Martens,Vealey,and Burton,1990) และแบบวัดที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นเอง
แบบวัด ซีเอสเอไอ – 2 ผู้วิจัยได้แปลแล้วให้ผู้เชี่ยวชาญจำนวน 19 คนตรวจสอบความถูกต้องนำไปทดลองใช้กับนักกีฬาที่เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาภายในกองทับบก จำนวน 60 คน ได้ค่าความเที่ยง 0.75 และนำไปทดลองใช้กับนักกีฬาที่แข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติประจำปี 2535 ณ จังหวัดศรีสะเกษ จำนวน 438 คน ได้ค่าความเที่ยง 0.80
แบบวัดปัจจัยคัดสรรผู้วิจัยสร้างขึ้นแล้วให้ผู้เชี่ยวชาญจำนวน 19 คนตรวจสอบและนำไปทดลองใช้กับนักกีฬาที่เข้าร่วมการแข่งขันภายในกองทัพบก จำนวน60คน ได้ค่าความเที่ยง0.86 และนำไปทดลองกับนักกีฬาที่เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ
ประจำปี 2545 จำนวน 438 คน ได้ค่าความเที่ยง 0.88 แบบวัดปัจจัยคัดสรรมีจำนวน 50 ข้อ แต่เมื่อนำมาวิเคราะห์ตัวประกอบแล้ว เหลือข้อคำถามที่นำไปใช้ในการวิจัยได้
7. การเก็บรวบรวมข้อมูล
ผู้วิจัยได้มอบหมายให้พนักงานแจกแบบสอบถามและแบบวัดที่ใช้ในการวิจัย แก่นักกีฬา
ที่มีรายชื่อตามบัญชีสุ่มเป็นกลุ่มตัวอย่างในการวิจัย โดยให้นักกีฬาดำเนินการให้แล้วเสร็จ
ก่อนลงท่าการแข่งขันในแต่ละภาคเช้าหรือภาคบ่าย
8. สถิติและการวิเคราะห์
8.1 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์เครื่องมือในการวิจัย
8.1.1 ความเที่ยงของแบบวัดปัจจัยคัดสรร และแบบวัดความวิตกกังวนในการแข่งขันกีฬา
ใช้วิธีการทางสัมประสิทธิแอลฟ่าของครอนบาท
8.1.2การจัดกลุ่มและสกัดข้อประเด็นคำถามในแบบวัดปัจจัยคัดสรรใช้วีธีวิเคราะห์
ตัวประกอบหลัก (principle component method) หมุนแกนแบบออร์ธอ
โกนอล(Orthogonal) ด้วยวิธี (varimax)
8.2.1 การบรรยายข้อมูลพื้นฐาน ค่ามัชฌิมเลขคณิต และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ค่าต่ำสุด และค่าสูงสุด
8.2.2 การวิเคราะห์เส้นทาง
8.2.2.1 วิเคราะห์ควานสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรรายคู่ โดยวิธีเพียร์สันโปรตักโมเมนต์
8.2.2.3 วิเคราะห์ทดถ่อยพหุคูณ แบบบังคับทุกคัวแปรอิสระ ข้าพร้อมกัน
8.2.2.4 ทดสอบความสอดคล้องของแบบจำลอง โดยวิธีการทางสเป็คค(specht)
8.2.2.5.วิเคราะห์ผลทางตรง และทางอ้อมโดยการสร้างโปรแกรมคำนวณตามาวิธีการนำเสนอโดยเพดาเซอร์ (Pedhazur,1982)
8.3.วิธีการวิเคราะห์ข้อมูล
8.3.1.การวิเคราะห์องค์ประกอบ วิเคราะห์โดยเครื่องคอมพิวเตอร์ เมนเฟรม ของสถาบันคอมพิวเตอ0ร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ด้วยโปรแกรม Spss
8.3.2.การวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐาน ความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรรายคู่วิเคราะห์ถดถอยพหุคูณวิเคราะห์ผลโดยใช้คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลด้วยโปรแกรม SPSSPC+
8.3.3.วิเคราะห์สอดคล้องของแบบจำลองและวิเคราะห์ผล ใช้เครื่องไมโครคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล โดยใช้โปรแกรมที่สร้างขึ้นด้วย โลตัส (LOTUS)
9.สรุปผลการวิจัย
แบบจำลองตามสมมติฐานไม่สอดคล้องกับข้อมูลเชิงประจักษ์ ผู้วิจัยจึงปรับแบบจำลองใหม่ โดยผสมผสานระหว่างทฤษฏีและการปฏิบัติ ด้วยการตัดเส้นทางตามสมมติฐานที่มีประสิทธิภาพเส้นทางต่ำกว่า .05 ออก และเพิ่มเส้นทางที่มีในสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 แบบจำลองเต็มรูปแบบในแบบจำลองแบบใหม่ ต่อจากนั้นผู้วิจัยได้ปรับแบบจำลองให้ได้แบบจำลองที่ประหยัด (Parsimonious Model) ผู้วิจัยจะตัดเส้นทางที่มีสัมประสิทธิ์เส้นทางต่ำกว่า .05 ออกแบบจำลองปรับใหม่ จนได้แบบจำลองที่มีสัมประสิทธิ์เส้นทางทุกเส้นทางไม่ต่ำกว่า.05ต่อจากนั้นจึงนำไปวิเคราะห์ผลพบว่า
ปัจจัยคัดสรรที่ส่งผลต่อความสำเร็จในการแข่งขันมากที่สุด และรองลงมาตามลำดับดังนี้
1.เป้าหมายของการแข่งขันกีฬา โดยส่งผลรวมต่อความสำเร็จในการแข่งขันกีฬา.356จำแนกเป็นผลทางตรง.322และผลทางอ้อม.034
2.ความวิตกกังวลทางจิต โดยส่งผลรวมต่อความสำเร็จในการแข่งขันกีฬา-.250 โดยส่งผลทางตรงทั้งหมด
3.ผลการแข่งขันในการทดสอบที่ผ่านมา โดยส่งผมรวมต่อความสำเร็จในการแข่งขันกีฬา .181จำแนกเป็นผลทางตรง.123และผลทางอ้อม.058
4.ระดับความสามารถโดยส่งผลรวมต่อความสำเร็จในการแข่งขันกีฬา.181เป็นผลทางอ้อมทั้งหมด
5.ประสบการณ์แข่งขันโดยส่งผลรวมต่อความสำเร็จในกรแข่งขันกีฬา.169จำแกเป็นผลทางตรง.190และผลทางอ้อม-.021
6.ความคาดหวังในความสำเร็จโดยส่งผลรวมต่อความสำเร็จในการแข่งขันกีฬา.155จำแนกเป็นผลทางตรง.144และผลทางอ้อม.011